วันที่สอง เริ่มจากนัดรวมพลกันที่โรมแรม Home Inn จริงๆนั่งรถไฟใต้ดินไป 1 สถานีก็ถึง
แต่อยากดูบรรยากาศ เดินไปค่ะ เกือบ 2 กิโล อากาศช่งเช้าก็สบายๆ ประมาณ 19 องศา
และหาของกินระหว่างทาง มีแต่ก๊วยเตี๊ยวชามใหญ่โต เลยกินแค่นี้พอ
คล้ายๆกุ้ยช่ายทอด กับซาลาเปาจิ๋ว
วันนี้ต้องไปดูงานนอกเมือง นั่งบัสไปเกือบๆ 2 ชั่วโมง เป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่คล้ายๆ home care สำหรับผู้สูงอายุ
เป็นความร่วมมือระหว่างบริษัทจีนและไทย ตั้งอยู่ใกล้ทะเลสาปด้วย
ขนมไส้กุหลาบ ของขึ้นชื่อของคุณหมิง อะไรๆก็กุหลาบ ..หอม อร่อยดี
ไปเดินชมวิวทิวทัศน์ใเกล้ทะเลสาป
แวะพักรับประทานอาหารกลางวันก่อน (ไม่กล้าถ่ายมาก ผู้ใหญ่เยอะ)
ไปดูงานต่อที่โรงพยาบาล Kunming Forth People ‘s Hospital และ Home care อีกที่
ได้เห็นศาสตร์แพทย์แผนจีนด้วย
ก่อนจะกลับมาสถานที่จัดงาน Happy Care Home ในเมืองคุณหมิง จัดบูทเพื่องานในวันพรุ่งนี้
เสร็จแล้วรสบัสก็มาส่งเราที่ Homme Inn เหมือนเดิม แต่ดีที่ว่าใกล้ๆโรงแรมนั้น มีห้างอยู่ เลยแวะหาอาหารเย็นกินซักหน่อย
ตอนนี้อยากได้หวานๆ เย็นๆ น้ำแข็งๆ ให้ชื่นใจ
เดินไปฟู้ดคอร์ดด้านล่าง ร้านเยอะแยะ แวะซักหน่อย เป็นร้านก๊วยเตี๋ยว
ความยากคือ เราไม่กินเนื้อวัว แค่อยากถามพนักงานว่า นี่มันเนื้อหมูหรือเนื้อวัว
เอาจริงนะ ที่นี่ไม่พูดภาษาอังกฤษเลยยยยยย เราพูดไปเค้าจะตอบกลับมาเป็นภาษาจีนรัวๆ ถ้าอยากอยู่รอดที่นี่ ไม่จำเป็นต้องพูดภาษาจีนได้จ่ะ
แค่เพียง …มองตาคู่สนทนาให้ลึกซึ้ง ใช้ภาษามือ ภาษากาย เสียง อะไรก้แล้วแต่ที่สามารถสื่อสารได้
แล้วมือจิ้มไปที่เมนู …เอ้อๆ ..อ้าๆ นี่แหละ จะได้กินล่ะ
แต่ได้กินไรไม่รู้นะ ไปลุ้นเอาอีกที เมนูที่ได้มาคือ
เมนูเส้น คล้ายขนมจีน มีหมูสามชั้นชิ้นเล็กโรยด้านบน และเห็ดและผัก
รสชาติ เค็มนิดๆ มันๆ แค่นั้นๆๆๆๆๆๆ ไอ้สีแดงๆ ไม่ได้รสเผ็ดแต่อย่างใด
สรุป ไม่ผ่าน กินไม่หมดด้วย
ไปหาขนมหวานต่อ ใจที่อยากกินหวานๆ เย็นๆ ก็ยากในการสื่อสารอีก คือ อีเมนูนี้เนี่ย มันคล้ายเต้าทึง แต่มันร้อนหรือเย็นวะ
google translate อยู่นาน ได้เมนูนี้มากิน
ลืมบอกไป คนที่นี่ไม่กินกวานนะคะ เพราะฉะนั้น ไอ้น้ำหวานที่หวานน้อยมากอยู่แล้ว เจอน้ำแข็งละลายเข้าไปอีก
เห้ออออออออออ ..ได้ความหวานจากไข่มุกมาช่วยนิดหน่อย
กลับโรงแรมนอนแบบท้องจะแตก
อาหารที่นี่ ส่วนมากรสเค็มนิดๆ มันๆ ไม่มีความหวานเลย ถ้าอยากกินพวกน้ำหวาน ชา ชานมไข่มุขเย็นๆ แนะนำ extra ice นะคะ
เดินไม่พ้นเค้าเตอร์จ่ายตัง น้ำแข็งละลายหมด
…………………………………………..
วันที่สาม วันนี้เป็นงานวันแรกของ Business Matching
ตอนเย็นหลังเลิกงาน มีเวลานิดหน่อย เลยเข้าไปเดินคาร์ฟู ของเยอะมากก คนเยอะมาก ที่นี่จ่ายเงินออนไลน์ทั้งหมด และไม่ค่อยใช้ถุงพลาสติกแล้ว
ต่อวันที่สี่เรายังคงทำงานกันต่อไป มีช่วงเย็นนี่แหละ มีพี่ที่เค้าเคยมาคุณหมิง แนะนำร้านนี้อร่อยมากกก ราคาไม่แพง เดินมาจากรถใต้ดิน ก็จะอยู่ฝั่งเดียวกันกับวัดหยวนทง เดินเลยไป 200 เมตร
เข้าไปคนเยอะมากกกกก และเช่นเดิม ต้องทนกับกลิ่นบุหรี่ด้วย
รสชาติโอเคเลย ยำเห็ดหูหนุดำนี่ เผ็ดแซ่บ รสชาติไทยๆเลยล่ะ ซุปก็อร่อย
กินอิ่มเดินกลับที่พัก ระยะทางกิโลกว่าๆ แต่แบบ ก่อนหน้านั้นฝนตก อุณหภูมิลดฮวบ เหลือ 13 องศา แถมมีลม
เดินหนาวสะท้านกันไปเลยจ้าาาา รับอากาศที่เมืองไทยไม่มี
มาวันสุดท้ายสำหรับงาน ต้อง check out เอากระเป๋ามาไว้ที่งาน เตรียมตัวกลับ
ลากกระเป๋าขึ้นรถเมล์ซะด้วย ..ที่ชอบรถเมล์ที่นี่อีกอย่างคือ มันจะมีเบอร์สายรถ ติดอยู่ตรงกระจกมองข้างคนขับด้วย
ทำให้เราไม่ต้องชะโงกหน้าออกไปดูป้ายที่อยู่หน้ารถ ..ไทยก็น่าเอาเป็นแบบ
วันนี้ก็อยู่ที่งานทั้งวัน จนเก็บบูทช่วงเย็น กลับไปแวะที่รร.Home Inn ฝากกระเป๋าเอาไว้ก่อน
แวะหาอะไรกินชิวๆได้ เพราะกว่าเครื่องจะออกก็ตี 2 นู่นนนน
อยากลองร้านใหม่ มาเปิดแถวโรมแรม เป็นร้านดังของที่นี่ คนเยอะมาก เพราะเค้ามีส่วนลดพิเศษด้วย
ได้คิวมาน่าจะรอไม่ไหว เห็นตรงกับพี่ๆ ไปห้าง TKP เหมือนวันแรก น่าจะดีกว่า เมนูก็ง่ายๆ อร่อยใช้ได้เลย
กินเสร็จได้เวลาร่ำลาแยกย้าย ตอนแรกกะว่าจะนั่งรถใต้ดินไป แค่ 6 หยวนเอง
แต่สำภาระเราเยอะแยะเกินกว่าจะหิ้ว ยก กันไปได้ taxi ดีที่สุด ..ภาษาจีนที่ปริ้นไป ก้ได้ใช้วันนี้
我要去机场。wŏ yào qù jīchăng หว่อ เย่า ชวี่ จีฉั่ง = ฉันต้องการไปสนามบิน
ไปโลด ค่าtaxi 80 หยวน นั่งรอเครื่องไปจ้าาาา
มาจีนครั้งแรก ก็เปลี่ยนความคิดเราไปเยอะ บ้านเมืองเค้าสะอาด ไม่มีกองขยะบนฟุตบาทเหมือนบ้านเรา
ห้องน้ำก้โอเค มีบางที่ที่ยังเป็นนั่งยองแบบเก่า ส่วนใหญ่เป็นชักโครกหมดแล้ว
ห้างร้านก็สะดวกสบาย ของกินเยอะแยะ รสชาติเค็มนิด เผ็ดหน่อยๆ ไม่กินหวานเลย
หาน้ำแข็งเย็นๆกินยาก นิยมกินน้ำร้อน ชาร้อน มากกว่า เมนูจะเป็นเมนูเนื้อวัว
เดินกลางคืนก้ไม่น่ากลัว ตำรวจนี่โหดมาก โดยเฉพาะสี่แยกใหญ่ๆ มอไซด์คันไหนสวนทาง
คนไหนเดินข้ามไม่รอสัญญาณไฟ โดนตะคอกมันกลางสี่แยกเลย เออ…รถที่นี่ส่วนใหญ่ขับรถต้องเปิดกระจก เปิดเต็มบานบ้าง เปิดแง้มๆบ้าง
ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เจ้าหน้าที่ตรวจสแกนกระเป๋าทุกใบก่อนขึ้นรถใต้ดิน ไม่ทำเป็นเปิดไฟส่องแต่ตาไม่ดูเหมือนที่ไทย
คนก็เป็นระเบียบดี เดินต่อคิวขึ้นรถเมล์ ต่อคิวเข้ารถไฟฟ้า ไม่ได้เสียงดังโวยวาย ขนาดบนนรถใต้ดินก็จะมีประกาศว่า ห้ามทานอาหารบนรถ และใช้เสียงเบา 555 ,มีก็ป้ายุคเก่าๆที่เสียงดังบ้าง แต่ส่วนมากไม่เป็นแบบนั้น
เค้าก้พยายามจะคุยกับคนต่างชาติ พยายามช่วยเหลือนะ แต่เค้าพูดจีนล้วนๆ
ก่อนจะมาจีนครั้งหน้า คงต้องทำการบ้านอย่างหนักเหมือนกัน โดยเฉพาะเรื่องภาษา
หรือไม่ก็เตรียมใจมาล้วนๆ ..แต่มาคุณหมิงครั้งนี้แล้วก้อยากลองไปเมืองอื่นๆดูบ้าง สายธรรมชาติน่าจะชอบ
